เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป
ที่ประกอบด้วยองค์ 3 นี้แล เป็นกรรมเป็นธรรม เป็นวินัย และระงับ
ดีแล้ว .

หมวดที่ 11


[301] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิ
อันเป็นบาป ที่ประกอบด้วยองค์ 3 แม้อื่นอีก เป็นกรรมเป็นธรรม เป็น
วินัย และระงับดีแล้ว คือ ให้จำเลยให้การก่อนแล้วทำ 1 ทำโดยธรรม
1 สงฆ์พร้อมเพรียงกันทำ 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป
ที่ประกอบด้วยองค์ 3 นี้แล เป็นกรรมเป็นธรรม เป็นวินัย และระงับ
ดีแล้ว.

หมวดที่ 12


[302] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิ
อันเป็นบาป ที่ประกอบด้วยองค์ 3 แม้อื่นอีก เป็นกรรมเป็นธรรม
เป็นวินัย และระงับดีแล้ว คือปรับอาบัติแล้วทำ 1 ทำโดยธรรม 1
สงฆ์พร้อมเพรียงกันทำ 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป
ที่ประกอบด้วยองค์ 3 นี้แล เป็นกรรมเป็นธรรม เป็นวินัย และระงับ
ดีแล้ว.
ลักษณะกรรมเป็นธรรม 12 หมวด
ในอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป จบ

ข้อที่สงฆ์จำนง 6 หมวด


หมวดที่ 1


[303] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 3 เมื่อสงฆ์
จำนงจะพึงลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป คือ เป็นผู้ก่อ
ความบาดหมาง ก่อการทะเลาะ ก่อการวิวาท ทำความอื้อฉาว ก่ออธิกรณ์
ในสงฆ์ 1 เป็นพาล ไม่ฉลาด มีอาบัติมาก มีมารยาทไม่สมควร 1 อยู่
คลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการคลุกคลีอันไม่สมควร 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 3 นี้แล เมื่อสงฆ์จำนง
พึงลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป.

หมวดที่ 2


[304] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 3 แม้อื่นอีก
เมื่อสงฆ์จำนงพึงลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป คือ
เป็นผู้มีศีลวิบัติในอธิศีล 1 เป็นผู้มีอาจารวิบัติ ในอัธยาจาร 1 เป็นผู้มี
ทิฏฐิวิบัติ ในอติทิฏฐิ 1
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 3 นี้แล เมื่อสงฆ์
จำนงพึงลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป.

หมวดที่ 3


[305] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยองค์ 3 แม้อื่นอีก
เมื่อสงฆ์จำนงพึงลงอุกเขปนียกรรม ฐานไม่สละทิฏฐิอันเป็นบาป คือ
กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า 1 กล่าวติเตียนพระธรรม 1 กล่าวติเตียนพระ-
สงฆ์ 1